น้ำดำมะรุมเพื่อสุขภาพ

คุณสมบัติ ช่วยลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ในเส้นเลือด ขับสารพิษ ต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความแก่ และปรับฮอร์โมนในร่างกายวัยทอง สร้างภูมิต้านทานโรคและระบบย่อยอาหาร ทำให้อวัยวะสำคัญ ๆ เช่น ตับ ไต หัวใจ สมอง ตับอ่อนและส่วนอื่น ๆ มีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้นทำให้ สภาพร่างกายที่กำลังเสื่อมสภาพกลับมาแข็งแรง สามารถทำงาน ได้เป็นปกติ ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็ง หัวใจ ตับ ไต เบาหวาน อีกทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำบัดผิวที่ี่อักเสบทำให้ผิวสดใส และขาวขึ้น

วิธีดื่มน้ำดำมะรุม มอริงโก แบล็ค เขย่าขวดก่อนดื่ม และดื่มน้ำตามมาก ๆ ทุกครั้ง ดื่มครั้งละ 25 มล. ก่อนอาหารเช้า และก่อนเข้านอนเนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด คำแนะนำหลังจากเปิดขวดแล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็น สามารถทานยาตามที่แพทย์สั่งได้ตามปกติ คำเตือน- เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน- ไม่ใช่อาหารทางการแพทย์- หยุดบริโภคเมื่อมีอาการผิดปกติ

น้ำดำมะรุมประกอบด้วย
1. มะรุม
- ช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้- ใช้ควบคุมความดันโลหิตสูงให้อยู่ในภาวะควบคุมได้- ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ถ้ารับประทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์ จะทำให้มารดามีสุขภาพสมบูรณ์และ แข็งแรง ช่วยเพิ่มแคลเซียมให้แก่มารดา- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ และสามารถมีชีวิตอยู่อย่างคนปกติทั่วไป- ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และถ้าหากเป็นอยู่ก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น- ช่วยบรรเทาอาการปวดบวมของโรคเก๊าท์ โรคไขข้อและกระดูกอักเสบ โรครูมาติซั่ม โรคมะเร็งในกระดูก- ช่วยรักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น- รักษาโรคเกี่ยวกับท้อง โีรคพยาธิในลำไส้- รักษาปอดให้แข็งแรงและช่วยรักษาโรคปอดอักเสบ- รักษาโรคทางเดินหายใจอักเสบ โรคโพรงจมูกอักเสบ หอบหืด และโรคภูมิแพ้- ช่วยเชื่อมต่อกระดูกที่หักได้ผลรวดเร็ว และยังช่วยโรคกระดูกเสื่อมในผู้สูงวัยอีกด้วย- ช่วยรักษาโรคคอหอยพอกชนิดมีพิษ มีผลในเพศหญิงเต็ม 100% ชาย 50%
ระบบเลือด
2. กระชายดำ บำรุงสมรรถภาพ เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงกำลัง แก้กามตายด้าน

3. กาะชายเหลือง บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ แก้ปวดข้อ ทำให้โลหิตไหลเวียนดี

4. ฝรั่ง ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน มีสารเบต้า - แอโรพัน ช่วยไม่ให้ ไขมันจับที่ผนังหลอดเลือด

5. พริก ช่วยเพิ่มน้ำย่อย ทำให้โลหิตไหลเวียนดี

6. ดอกคำฝอย แก้โรคความดัน บำรุงเลือด บำรุงหัวใจ ลดความอ้วน ลดไขมัน ขับเหงื่อช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนดี

7. มะขามฟอกโลหิต มีวิตามินซี

8. ถั่วแดง บำบัดโรคเหน็บชา แก้บวมน้ำ ขับปัสสาวะ บำรุงประสาท บำบัดอาการใจสั่น บำรุงเลือด

9. องุ่น ช่วยล้างสารพิษและสร้างเม็ดเลือด บำรุงสายตา ป้องกันโรคหวัด เลือดออกตามไรฟัน ป้องกันโรคมะเร็ง10. มะนาว แก้เสมหะ แก้เลือดออกตามไรฟัน ฟอกโลหิตระบบขับสารพิษ
11. คื่นฉ่าย ช่วยล้างพิษในไต ขับนิ่ว

12. เก๊กฮวย ใช้ถอนพิษ ป้องกันบำบัดโรคหลอดเลือด ไขมันในเส้นเลือด และโรคหัวใจ

13. พลูน้ำ แก้ปวดเอว ปวดเมื่อยส้นเท้า แก้บวมน้ำ โรคไต แก้ตกขาว ผดผื่นคัน แก้ไส้เลื่อน

14. ใบบัวบก แก้โรคนิ้ว ขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง แก้ร้อนใน ปวดศีรษะข้างเดียว แก้ตับอักเสบ

15. กระเจี๊ยบแดง แก้โรคนิ่ว ขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต และคอเลสเตอรอล

16. ชะเอม บำรุงปอด หลอดลม ป้องกันการแพ้ยา ทำลายเชื้อโรคระบบต่อต้านอนุมูลอิสระ
17. พลูคาว แก้การอักเสบ ขับปัสสาวะ รักษาโรคความดันโลหิตสูง แก้โรคผิวหนัง ทำให้แผลหายเร็ว

18. แครอท มีสารเบต้า-แคโรทีน ที่มีอำนาจยับยั้งเซลล์มะเร็ง บำรุง ช่วยขับสารพิษ บำรุงเซลล์ผิวหนัง และเส้นผม

19. ชาเขียว ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บรรเทาอาการท้องเสีย

20. ข้าวโพด มีกรดเฟรุลิก ซึ่งเป็นพฤกษาเคมี เป็นตัวล้างพิษช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ

21. ลูกเดือย ช่วยลดอาการบวมแดง แก้น้ำคั่งในปอด ข้ออักเสบ ปอดอักเสบ ยับยั้งสารก่อมะเร็ง
ระบบภูมิต้านทานโรค
22. แฮ้ม แก้ไมเกรน เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด

23. ลูกหว้าแก้หอบหืด แก้อาการแพ้ต่าง ๆ วัณโรค แก้เบาหวานลดน้ำ ลดน้ำตาลในเลือดแก้บิดท้องร่วง

24. แอปเปิ้ล ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นความจำ ชะลอความเสื่อมของสมอง
ระบบย่อยอาหาร
25. ขิง ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด อาหารเป็นพิษคลื่นไส้ อาเจียน

26. ตะไคร้ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้นิ่ว บำรุงธาตุไฟ เจริญอาหาร ขับลมในลำไส้ ลดความดันโลหิต

27. ใบชะพลู ช่วยเจริญอาหาร ขับเสมหะ ทำให้เลือดลมซ่าน ช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายเกิดความสมดุล

28. น้ำอ้อย ช่วยสร้างคาร์โบไฮเดรตให้ร่างกาย แก้ร้อนใน บำรุงกระเพาะอาหารระบบเผาผลาญพลังงาน
29. น้ำนมข้าว บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง

30. เตยหอม บำรุงหัว ดับพิษไข้ บำรุงกำลัง ฟื้นฟูตับอ่อนให้แข็ง

31. มะตูมแห้ง แก้ร้อนใน บำรุงหัวใจ ช่วยย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายสดชื่น

32. น้ำผึ้ง ช่วยเพิ่มธาตุเหล็กให้แก่ร่างกาย แก้ลม ช่วยลดไข้ บำรุงโลหิต บำรุงเนื้อหนังให้สมบูรณ์

ข้อมูลยืนยันเรื่องใบมะรุม (ตอนที่1)

ข้อมูลคร่าว ๆ จากแหล่งอ้างอิงข้อมูล ต่อไปนี้ได้มาจากวารสารการค้นคว้าและวิจัยของแ พทย์หลายแขนงที่ประสบผลสำเร็จและจากประสบการณ์จริงในการใช้ส่วนต่าง ๆ ของต้นมะรุมในการรักษาสุขภาพทุก ๆ ท่านที่เอ่ยถึงยังมีชีวิตอยู่ บางท่านขอสงวนนาม บางท่านอนุญาตให้เปิดเผยนามได้ประโยชน์ทั้งหลายที่พอจะรวบรวมได้ มีดังต่อไปนี้...

๑. ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดจนถึง ๑๐ ขวบ ลดสถิติการเสียชีวิตพิการและตาบอดจากการขาดสารอาหารได้เป็นอย่างดีในกรณีเด็กแรกเกิด การให้สารมะรุม ทำได้ดีที่สุดโดยผ่านทางน้ำนมมารดา เมื่อทารกดื่มน้ำนมมารดาที่รับประทานใบมะรุมอย่างสมำเสมอสาร อาหารสำคัญ ๆ จะผ่านสู่ทารกโดยง่าย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานและเพิ่มแคลเซียมเ ข้าไปเสริมกระดูกให้มารดาเป็นอย่างดี ผลที่ได้ ๑๐๐ %มีตัวอย่างจากวารสารลอสแอนเจลิสไทม์ ฉบับลงวันที่ ๒๐ มีนาคม ค.ศ.๒๐๐๐ เป็นบทความชื่อ " มะรุม ต้นไม้ มหัศจรรย์ "โดยมาริค พิส บรรยายถึงด.ช.ชาวเอธิโอเปียอายุ ๕ เดือน ซึ่งแพทย์หมดหวังที่จะให้การรักษาเพราะขาดสารอาหารอย่างรุนแรงต่อมาเมื่อมารดาได้รับการแนะนำ โดยนายแพทย์ซึ่งเป็นหมอสอนศาสนาจากกลุ่มองค์กรการกุศ ล " ต้นไม้เพื่อชีวิต " ให้รู้จักการใช้ใบมะรุมแห้งบดละเอียดนำมาทำอาหาร ขณะนี้เด็กชายผู้นั้นมีอายุ ๖ ขวบ สุขภาพสมบูรณ์และแข็งแรง พ้นจากภาวะตามืดบอดได้อย่างหวุดหวิด

๒. ช่วยผู้ปวยโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ สามารถลดการใช้ยาลงโดยความเห็นชอบและการดูแลอย่างใกล ้ชิดจากแพทย์ผู้ทำการรักษาจาก การตรวจวัดด้วยลูกดิ่ง ท่านอาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา ได้บรรยาย ณ วัดป่าธรรมชาติว่า ถ้ารับประทานใบมะรุมอย่างสม่ำเสมอย่อมมีโอกาสที่จะหายจากโรคเบาหวานได้ คณะแพทย์และนักวิจัยทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างสูง โดยหาดูรายละเอียดได้เว็บไซต์ทั่ว ๆ ไป

๓. ใช้ควบคุมความดันโลหิตสูงให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ แต่ทั้งนี้จะต้องช่วยตัวเองด้วยการควบคุมอาหาร การบริหารร่างกายแบบง่าย ๆ เช่น เดิน รำมวยไท้ชี่ เป็นต้น มิฉะนั้นแล้ว การบำบัดด้านนี้จะไม่ได้ผลเท่าที่ควร

๔. ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ถ้ารับประทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์ นอกจากจะทำให้มารดามีสุขภาพสมบูรณ์และแข็งแรงแล้ว ทารกที่เกิดมาก็จะมีสุขภาพสมบูรณ์และโอกาสที่ทารกจะติดเชื้อ hiv ย่อมลดน้อยลงด้วยมะรุมจะช่วยเพิ่มแคลเซียมให้แก่มารดาในระยะตั้งครรภ์ ได้เป็นอย่างดีคนทั่ว ๆ ไปสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองได้ถ้ารับประทานใบ มะรุมอย่างน้อยอาทิตย์ละ ๓ ครั้ง

๕. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานที่ต่ำลงของผู้ป่วยโรคเอดส ์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ และสามารถมีชีวิตอยู่อย่างคนปรกติทั่วไปในสังคมการรักษาโรคเอดส์ประสบผลสำเร็จ อย่างกว้างขวางจากประเทศในกลุ่มทวีปแอฟริกา และได้รับความสำเร็จเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมค.ศ.๒๐๐๕ จากการค้นคว้าและทดลองของวัดแอฟริกาอินแลนด์ ประเทศทานซาเนีย โดยนายแพทย์เฟลิซิ และพยาบาลชาวเยอรมันชื่อไมค์กี้ เอตลิ่ง สำหรับท่านที่สนใจต้องการจะนำไปทดลองใช้ วิธีการรักษาจะอยู่ในบทความตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้ โดยละเอียด

**จากหนังสือ มะรุม ต้นไม้มหัศจรรย์เพื่อชีวิต โดยคุณวิไลวรรณ อนุสารสุนทร จากหนังสือ นาฬิกาชีวิต ตอน ๒

มะรุม-พืชมหัศจรรย์

มะรุม พืชมหัศจรรย์

ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน ความดันโลหิตสูง เม็ดเลือดขาวกินเม็ดเลือดแดง(รูคีเมีย)และปอดมีปัญหาอักเสบ มะรุมมีลักษณะในการเข้าไปช่วย

ในสหรัฐอเมริกามีคนนิยมปลูกมะรุมไว้ในบ้าน ซึ่งแต่ละบ้านงกมาก และไม่ยอมให้กัน เพราะที่สหรัฐเค้ากินกัน
ถือว่าบ้านไหนมีต้นมะรุมถือว่ามีโรงพยาบาลที่บ้าน
กินใบสดที่ใบไม่แก่และไม่อ่อนจนเกินไป หรือไม่ก็เก็บสดมาตากแห้ง(ต้องมีผ้าขาวคลุมเพื่อไม่สูญเสียน้ำไป
บดให้ละเอียดใส่แคปซูลกินทุกเช้า

มะรุม เป็นไม้กลางบ้านของไทยที่รู้จักอย่างแพร่หลายเป็นเวลานาน นอกจากจะรับประทานอร่อยแล้ว ชาวอินเดียยังได้ทำการทดลองและเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆได้ถึง 300 ชนิด

องค์การสหประชาชาติได้ให้การสนับสนุนในการค้นคว้าวิจัยอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในการรักษา โรคขาดอาหารและอาการตาบอดซึ่งเกิดขึ้นในเด็กทารกแรกเกิดจนถึงวัยเจริญเติบโตในประด้อยพัฒนา

กลุ่มนักศึกษาแพทย์ 25 ท่านจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการทดลองวิจัยในการที่จะนำมารักษาผู้ป่วยด้วยโรคงูสวัด
แม้แต่กลุ่มประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ,เยอรมัน,รัสเซีย,ญี่ปุ่น,จีน ทำการค้นคว้าอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะเพื่อช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็ง,เบาหวาน,โรคเอดส์และอีกมากมาย


ประโยชน์คร่าวๆจากวารสารค้นคว้าและอ้างอิงได้มีดังต่อไปนี้คือ

1. ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิตและตาบอดได้เป็นอย่างดี
2. ใช้รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน ให้อยู่ในสภาวะควบคุมได้ ทำให้สมารถใช้ยาลดลง โดยความเห็นชอบและการดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ผู้รักษาด้วย
3. รักษาความดันโลหิตสูง
4. ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ถ้ารับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งหรือเป็นประจำทุกวัน
5. ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในสภาวะควบคุมได้และสามารถมีชีวิตอยู่อย่างคนทั่วไปของสังคมได้
6. ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ถ้ารับประทานเป็นประจำ
หากมีผู้ป่วยโรคมะเร็ง ได้รับการรักษาด้วยรังสี การงดดื่มน้ำมะรุม จะช่วยให้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างการแข็งแรง
7. รักษาไขข้ออักเสบ,โรคเก๊าท์,โรคกระดูกอักเสบ,โรคมะเร็งในกระดูก,โรคราติซัม
8. รักษาโรคตาเกือบทุกชนิดเช่น ตามืดตามัว(เพราะขาดอาหารที่จำเป็น) โรคต้อกระจก เป็นต้น
9. รักษาโรคปอดอักเสบ ,โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ